วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

[MHA] In The Rain- (Dabi/Hawks)


In The Rain-

Boku no Hero Academia

— Dabi / Hawks —

Warning : Implied sexual content

Summary : ดาบิคิดเสมอว่าฝนมักสร้างบรรยากาศที่แสนแปลกตา




ดาบิคิดเสมอว่าฝนมักสร้างบรรยากาศที่แสนแปลกตา มันชะลอผู้คนด้วยความเปียกปอน แทรกเนื้อตัวระหว่างท่อนเพลง ไม่เพียงชโลมโลกแต่ยังกระทบใจ มันทำให้ซึมเซาไปพร้อมกับท้องฟ้าที่อึมครึม แต่เป็นความเซื่องซึมที่น่าดื่มด่ำและหลงใหล

เขายืนมองฝนและตึกอาคารรอบข้างที่ถูกพรางด้วยเส้นสายสีเทา ไม่ถอยหลีกละอองที่สาดเข้ามาเหมือนคนอื่น มือหนึ่งถือบุหรี่ที่จุดควันลอยนิ่ง มืออีกข้างล้วงกระเป๋ากางเกงยีน หน้ากากสีดำเลื่อนลงมาใต้คางและหมวกฮู้ดก็คลุมไม่ถึงหน้าผาก ดาบิไม่กลัวว่าใครจะจดจำได้ ทุกคนมัวแต่ยุ่งกับการหลบฝน

ส่วนเขาก็ยุ่งกับการมองใครคนหนึ่งที่ยืนเหม่อกลางสายฝน

เสียงเพลงจากร้านกาแฟตรงมุมถนนดังคลอฝนเป็นจังหวะเดียวกับที่คนเดินเข้าออกร้าน กลิ่นขมและหวานลอยบางเบาตรงปลายจมูก แต่ดาบิกลับรู้สึกขมและหวานจากภาพที่เห็นมากกว่าอะไรอื่น เขาเชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะฝน

เพราะฝน ฮอว์คจึงยืนกางร่มอยู่ฟากตรงข้ามถนน

การถือร่มไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในละแวกที่น้ำเจิ่งนองสะท้อนแสงจากป้ายไฟนีออน แต่เป็นการที่ใครคนหนึ่งซึ่งมีปีก ถือร่มคันสีแดงแทบชิดศีรษะด้วยสองมือ ทั้งยังยืนห่อไหล่และห่อปีกดังกล่าวนั้นเข้าหาตัว ไม่รู้ด้วยเหตุใดดลใจ ดาบิมักนึกเห็นภาพที่ปีกคู่นั้นยกขึ้นบังเหนือศีรษะ พอเหมาะที่จะใช้กันหยาดน้ำจากฟ้า แต่แล้วเขากลับย้อนนึกถึงความทรงจำหนึ่งอันเลือนราง นั่นคือหน้านิ่วคิ้วขมวดของฮอว์คยามมองขนสีแดงที่ลู่ลงเพราะความชื้น

ดาบิเม้มบุหรี่พร้อมทั้งสูดรสขมลิ้มรสควัน

ฝนไม่มีทีท่าจะซาลง และฮอว์คก็ไม่แสดงวี่แววว่าจะออกจากภวังค์ในเวลาอันใกล้

หากเป็นในห้องนอน หากเขากำลังนอนฟังเสียงฝนและมองภาพฝันอยู่บนเตียง ดาบิคงยินดีจะทอดเวลานี้ให้ยาวนานที่สุด แม้ใกล้มืด แต่ที่แห่งนี้ก็ยังอยู่กลางแจ้ง ไม่เหมาะสำหรับการส่งต่อความลับหรือพลอดถ้อยคำกับสัมผัส

และดาบิคิดว่าหากส่วนที่หยาบกระด้างของเขายังอ่อนยวบเหมือนแดนร้างที่ต้องพายุฝน ใครคนอื่นที่ไม่เฉยชาเท่าย่อมไหวตามลมและหยดน้ำอย่างง่ายดาย

มือกำบุหรี่แน่นก่อนคลายออก กลายเป็นขี้เถ้าร่วงตกลงบนพื้นชื้นแฉะ ถนนโล่งไร้รถรา ดาบิจึงก้าวออกจากที่กำบังใต้ตึกสูง ฝนกระทบร่าง ซึมเข้าเนื้อผ้าแต่ระเหยหายเป็นไออย่างรวดเร็วเมื่อต้องเนื้อหนัง ทั้งครึ่งที่มอดไหม้และครึ่งที่ยังคงคล้ายมนุษย์ ไม่มีใครไยดีไอร้อนและเสียงที่ถูกกลบใต้แรงกระทบของเม็ดฝน ดาบิก็ไม่สนใจพวกเขาเช่นกัน

เขาสนใจแต่สีหน้าที่เปลี่ยนจากเฉยเมยเป็นแย้มยิ้ม

รอยยิ้มที่ไม่ได้เกิดบนริมฝีปาก แต่เกิดในดวงตาที่เหลียวมาสบมอง เกิดบนใบหน้ายามเจอคนที่รอคอย ดาบิรู้ว่าทำให้อีกฝ่ายต้องรอ เขาจงใจทำให้ฮอว์คต้องแลกเวลาหากกระตือรือร้นที่จะสอดแนมสมาพันธ์ หากต้องการอะไรบางอย่างก็ต้องยอมเสียบางสิ่งไป และหากมันคือความปรารถนาอย่างสุดใจ เขาก็ต้องจ่ายด้วยสิ่งที่มีมูลค่าเท่าเทียม

ฮอว์คยังมีอะไรหลายอย่างเหลือเกิน ขณะที่ดาบิไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว

สิ่งที่เขาชอบมากที่สุดในเวลานี้ คือการมองดูอารมณ์ซึ่งปรากฏขึ้นเมื่อฮอว์คพบเขา

ฮอว์คมองขึ้นลง แววตาสลับระหว่างระอากับขบขัน “ขี้โอ่ชะมัดยาด”

“อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน” ดาบิยักไหล่ ปากคลี่ยิ้ม “โดยเฉพาะเมื่ออัตลักษณ์ร้อนเสียจนฝนก็ทำให้เปียกไม่ได้”

“ฝนทำอะไรไม่ได้แต่สุดท้ายก็ยังมาสาย”

“และนายก็ยังอุตส่าห์รอ”

“เป็นมารยาททางสังคมที่ว่าเมื่อนัดหมายกันแล้วก็ต้องรักษาเวลา หัดเรียนรู้ไว้นะ”

“แล้วฉันดูเหมือนคนที่สนใจค่านิยมของสังคมนี้เหรอ ไม่เลยสักนิด” ดาบิโน้มตัวลงเพื่อมองคนที่ยืนใต้ร่มได้ถนัด “หุบร่มเถอะ มันเกะกะ”

“มันทำให้ฉันไม่เปียก”

“ท่อนล่างนายเปียกหมดแล้ว ไม่ต่างอะไรนักหรอก เดี๋ยวก็ต้องถอดออกหมดอยู่ดี”

ดาบิรู้ว่าคำพูดของเขามีประเด็น เขาจึงแยกยิ้มกว้าง

ถึงตรงนี้ฮอว์คชักสีหน้ารำคาญ “ฉันไม่อยากให้ปีกเปียก”

“งั้นครั้งนี้ก็ถอดออกทั้งปีกสิ”

ฮีโร่เก็บอารมณ์ทันควัน การบอกให้แยกปีกออกจากตัวไม่ต่างกับการบอกให้ทิ้งอาวุธทั้งหมด มันคือการปล่อยตัวเปลือยเปล่าทั้งทางกายภาพและทางความรู้สึก การหลับนอนกับวายร้ายอันตรายเกินกว่าจะไร้เครื่องมือป้องกันตัว

“หรือให้ฉันช่วยเผาให้หมดเลย เท่านี้ก็ไม่เปียกแล้ว”

“เพราะไม่มีปีกเหลืออยู่เลยน่ะสิ” ฮอว์คพ่นลมหายใจ ดวงตาสีอำพันเบี่ยงหลบ ใช้ความคิด ดาบิแทบเห็นกลไกใต้ผมสีบลอนด์ทำงานด้วยความเร็วแสง

เมื่อฮอว์คหันกลับมา อะไรบางอย่างที่เกินตามองบอกกับดาบิว่าเขากำลังจะชนะในเกมนี้

เสียงของฮีโร่หนุ่มเบา แต่หนักแน่น “สัญญาได้หรือเปล่าว่าจะไม่ทำอะไรที่ฉันจะไม่ชอบ”

ดาบิรู้สึกถึงแรงดึงแทบฉีกบนสองข้างแก้ม ตัดสินใจเร็วมาก สมแล้วกับฉายาฮีโร่ที่ไวเกินไป

เขาขยับ แทบแทรกตัวใต้ร่มคันเล็ก “ฉันเคยทำอะไรที่นายไม่ชอบด้วยเหรอ”

“บ่อยไป” ฮอว์คกลอกตา

“แต่ไม่เคยในเวลาแบบนั้น ฉันไม่เคยทำให้ใครต้องฝืนใจ” ดาบิเกี่ยวนิ้วที่ขอบกางเกงฮอว์คแล้วดึงเข้าหา หวานและขม ฮอว์คเหมือนคาเฟอีนที่ควรดื่มในวันฝนตก “และนายก็ได้รหัสที่ทำให้ฉันอารมณ์หดไปแล้ว ถ้าไม่ชอบก็แค่พูดออกมา”

ฮอว์คหลุดหัวเราะ หางตายับลง สีดำคมกริบอันเป็นรอยกำเนิดซึ่งประดับถัดจากดวงตาดูอ่อนละมุนอย่างน่าประหลาด

คันร่มทาบบนไหล่ แบ่งปันพื้นที่ให้แสงไฟส่องถึงประกายของอำพันรวมถึงละอองฝนที่ตกลงไม่หยุดหย่อน ดาบิมองหยดน้ำที่เกาะบนเส้นผมฮอว์คเหมือนเศษเพชร เขาปัดมันออกไม่ต่างจากปัดฝุ่นบนเสื้อ

“ที่ของนาย ที่ของฉัน หรือที่อื่น” ดาบิถาม

“บรรยากาศเศร้า ๆ แบบนี้ เป็นที่ห้องนายแล้วกันนะ ดาบิ” ฮอว์คตีหน้าเศร้าตามคำพูด เป็นทีดาบิพ่นลมหัวเราะ

เขาหมุนตัวเดินนำก่อน หางตาเห็นร่มสีแดงขยับตาม พวกเขาเดินบนทางเท้าเงียบ ๆ เข้าสู่ย่านที่เริ่มลับตาและร้างคนทีละนิด

ฝนกลายเป็นฉากหลังแต่ยังไม่ถูกลืมเลือน แค่ไม่น่าประทับใจเท่าใครคนหนึ่งที่เดินตามด้วยฝีเท้าแทบไร้เสียง ฝนไม่ทำให้รู้สึกซึมเซาอย่างเคย แต่ขับคลอความคิดให้จินตนาการถึงเวลาที่ทิ้งร่างลงบนเตียงพร้อมเจ้าของดวงตาที่เขามักฝันถึง ความสุขสมในคืนนี้จะถูกถักทออย่างเชื่องช้า เพราะฝนทำให้คนเกียจคร้าน เมื่อฝนตกก็ไม่ควรทำอะไรอีกนอกจากนอนกอดก่ายและจูบ

ดาบิคิดอยู่เสมอว่าฝนมักสร้างบรรยากาศที่แสนแปลกตาและไม่น่าเป็นไปได้ เขาไม่เคยเห็นภาพตนเองใช้เวลาอันซึมเซายามฝนตกร่วมกับใครคนอื่นนอกจากห้องที่ว่างเปล่า

ทว่าแปลกประหลาดอย่างไร เขาก็ไม่อาจหักห้ามใจต่อความเซื่องซึมที่น่าดื่มด่ำและหลงใหลเช่นฝนได้เลยสักครั้ง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น