วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

[MHA] Love you, bye (Dabi/Hawks)


Love you, bye

Boku no Hero Academia

— Dabi / Hawks —

Summary : n/a




“รักนะ”

คำนี้ถูกโยนใส่อย่างเรียบง่าย เหมือนเด็กเล่นรับส่งบอลจากมือต่อมือ ฝ่ายหนึ่งกระทำไปโดยคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะพร้อมรับ แต่ดาบิไม่พร้อม มือที่จับซองบุหรี่ชะงักค้าง ตาจ้องทิวทัศน์ทะเลแสงของเมืองเบื้องล่าง ฟังเสียงกระพือปีกลอยห่างก่อนหายลับไปในท้องฟ้าสีดำ

ดาบิเขย่าซองส่งบุหรี่ขึ้นแล้วคาบมัน จุดไฟด้วยปลายนิ้วชี้ สูดควันที่ผสมยาสูบกับผงโกโก้แล้วทอดถอนใจ

หากคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล การกระทำของฮอว์คดูเป็นไปโดยธรรมชาติ แค่คำพูดติดปากที่เผลอหลุดออกมา 

แต่เมื่อไม่คิด เมื่อใช้เพียงความรู้สึก ดาบิไม่มีคำตอบ

เขาเคยชินกับการคิดและคิด ความเป็นไปได้ที่เห็นจึงเป็นหลุมพรางของสายลับสองหน้า แต่ความรู้สึกไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับคนที่ประสาทสัมผัสทำงานอย่างหนักจนกระทั่งลุกไหม้ ดาบิสูดลมหายใจเข้าและออก จมความคิดลงในกลิ่นแห้งและเย็นของควัน จากนั้นบอกตัวเองว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก

ทว่าฮอว์คไม่เคยอยู่กับร่องกับรอยที่เขาขีดเส้นไว้

“รักนะ”

ฮอว์คพูดแทนคำลา หลังฟังประโยคเสียดสีที่ดาบิจงใจร้อยเรียงให้แทงส่วนที่เจ็บที่สุด ฮีโร่ ได้เงินง่าย ๆ ได้ชื่อเสียง แถมยังได้รับความเคารพจากการหยิบยื่นเศษขนมปังให้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนายถึงติดสบาย ดาบิคิดว่าจะได้รับเสียงหัวเราะบอกปัด หรืออย่างน้อยก็น้ำเสียงที่ห่างไกลจากความผ่อนคลายสบายใจสักหน่อย แต่ที่เขาได้กลับเป็นเสียงที่ชัดเจนว่าเจ้าตัวกำลังกลอกตา ก่อนตามมาด้วยคำบอกลาที่ไม่มีใครใช้กับคนที่มีสถานะเพียงรู้จัก

ดาบิเดินออกจากตู้โทรศัพท์ คำสองคำก้องในหู เขากักมันไว้เหมือนยามสูดควันลงปอดแล้วหายใจออกเพื่อให้ควันห่มคลุมร่าง

พลิกคำกลับไปมาบนลิ้นเหมือนลูกอมรสฝาด ไม่ทันละลายก็กัดจนแตกละเอียด เขาต้องการให้คำ ๆ นี้บาดลิ้น แต่มันกลับทำให้รู้สึกตื้อชา

ไม่เคยมีใครพูดคำนี้กับเขามาก่อน อย่างน้อยก็ตั้งแต่ฉีกผิวหนังเดิมออกและตอกร่างด้วยหมุด เมื่อเห็นเขา คนส่วนใหญ่หวาดระแวงจนถึงขั้นกลัวขึ้นสมอง บางคนถูกดึงดูดด้วยมีรสนิยมเฉพาะทางแต่แรก ดาบิไม่รู้ว่าฮอว์คชอบพอคู่นอนหรือคู่รักแบบไหน แต่คาดว่าคงห่วยแตกสิ้นดีหากฮีโร่มีปีกเห็นเสน่ห์ในตัวเขา

“รักนะ”

ดาบิรับฟังมันทั้งสีหน้าเบื่อหน่ายไม่ต่างจากวินาทีก่อนหน้า ก่อนคำว่ารักจะหลุดจากริมฝีปากที่ขยับมากเกินจำเป็น ตามองส่งฮีโร่ผมทองเดินออกจากบาร์ใต้ดิน ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนและปล่อยให้คำเลียนล้อของโทงะลอยผ่านหู

หากนี่คือคำติดปากย่อมหมายความว่ารักของฮอว์คไม่มีอะไรพิเศษ เขาคงเอ่ยคำนี้กับคนค่อนเมืองเหมือนหายใจทิ้งขว้าง

ดาบิถอนหายใจ ควันสีเทาพวยพุ่งอยู่ระหว่างฮอว์คกับเขา คืนนี้ไม่มีลม ทุกอย่างนิ่งงันแต่ไร้ความสงบ เหมือนกลางคืนกำลังจดจ่อรอคอยพายุ

แต่หากพายุกำลังถล่มลงมา ก็ยังมีนกอยู่ตัวหนึ่งที่แสดงออกว่าไม่รู้สึกรู้สา ดาบิทิ้งบุหรี่ลงพื้นแล้วเหยียบสะเก็ดไฟ เงยหน้าสบตาฮอว์คที่หยุดพูดไปแล้ว ฮีโร่ปีกแดงยืนกอดอก หลังพิงกำแพง มุมปากโค้งขึ้นน้อย ๆ อันเป็นลักษณะติดตัว

ดาบิไม่ได้ตั้งใจฟังรายงานความเคลื่อนไหวของกรมรักษาความสงบเลยสักนิด งานที่มอบหมายให้ฮอว์คก็แค่งานคั่นเวลา ไม่ได้มีความหมายอะไรต่อลีกหรือต่อเขา ดาบิมีข้อมูลสำคัญที่ทำให้เชื่อว่าฮอว์คจะไม่มีวันย้ายข้าง เขาจึงไม่รีบร้อนที่จะอ้าแขนรับตัวนกต่อเข้าทีม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ตักตวงเอาอะไรจากคนที่พร้อมแลกทุกอย่างเพื่อควานหาจุดอ่อน

ดังนั้นเมื่อคำว่า “รักนะ” ดังขึ้นอีกครั้ง ดาบิเดาะลิ้น โยนบุหรี่มวนที่สองลงพื้นทั้งที่เพิ่งสูบแค่อึดใจเดียว

“จริงหรือเปล่า”

ถ้อยคำที่คล้ายเปรยต่ออากาศกลับเป็นโซ่ล่ามฮีโร่ปีกแดงได้ชะงัด ฮอว์คหยุดและเหลียวหน้ากลับมามองอย่างงุนงง “อะไรนะ”

“ที่พูดนั่นจริงหรือเปล่า” ดาบิเอียงคอ ตาหลุบลงพร้อมรอยยิ้ม “นายรักฉันเหรอ”

ฮอว์คหัวเราะขึ้นจมูก ปากยิ้มแต่ดวงตากะพริบปริบ ราวกับเพิ่งได้ยินสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ

“มันคือวิธีบอกลาแบบหนึ่งไง” เขายักไหล่ ผมสีทองตกลงปรกหน้าผาก ดวงตาของดาบิเถลไถลชั่วครู่ ก่อนกลับมาที่อำพันสองคู่ที่พราวระยับ

ฮอว์คค่อย ๆ คลี่ยิ้ม ส่งเสียงประหลาดแบบที่คนชอบทำกับเด็กหรือสัตว์เลี้ยง

“ดาบิ นี่นาย...” ปีกสีแดงขยับพร้อมกับที่เจ้าของกระโดดเข้ามาใกล้ “นายเขินเหรอ”

ดาบิขมวดคิ้ว “ไม่...”

“ถ้าอย่างนั้นก็ประหม่า กระอักกระอ่วน ไม่ชินที่มีคนบอกรักเหรอ” ฮอว์คขยับทีละก้าว ศีรษะผงกไปมา สีหน้าแววตาราวกับผู้ล่าที่สนุกกับการไล่ต้อน

ดาบิปฏิเสธที่จะถอยหนี “ฉันไม่ได้รู้สึกอะไร”

“โธ่ ดาบิ”

ถึงตอนนี้ฮอว์คอยู่ใกล้มากเสียจนเห็นสีอำพันเข้มอ่อนตัดกันในดวงตา กลิ่นน้ำหอมกรุ่นอวลจมูก ฮอว์คหัวเราะในลำคอ ยิ้มกระทั่งดวงตาปิดลง เสียงของเขาทุ้มต่ำ ไม่ได้ทำให้คนฟังรู้สึกว่าถูกเยาะ แต่เป็นตรงกันข้าม

“ไม่เป็นไร ถึงนายจะชอบต่อต้านสังคมแถมไม่รู้จักรักตัวเองแต่ก็ยังมีฉันที่รักนายอยู่”

ขนนกนุ่มหนาลอยมาปัดใต้คาง ดาบิสะบัดหน้าหนีพร้อมกลอกตา “อะไรก็ช่าง”

เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังตามมาอีกครั้ง “ฉันต้องไปแล้ว ต้องลาดตระเวนรอบดึก ไว้เจอกัน”

ดาบิส่งเสียงรับอย่างไม่ใส่ใจ เขาหมุนตัวเดินออกจากตรอก พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่แสดงให้เห็นว่าอยากออกไปให้พ้นเต็มแก่

“รักนะ”

เสียงกระซิบลอยตามสายลม เสียงสะบัดปีกดังไล่หลังก่อนที่ฮอว์คจะบินโฉบผ่านเหนือหัว

ดาบิแหงนคอมองปีกสีแดงห่างออกไปบนท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม ก่อนหลบเข้าเงาข้างมุมตึก

คำบอกลาแบบนั้น ให้ฟังบ่อยเพียงใดก็ไม่มีทางชิน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น