วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2565

[DCU] Chaos Theory (Joker/Batman)


Chaos Theory

DCU (Comics), Batman

— Joker / Batman —

Warning : N/A

Summary : ธรรมชาติของความโกลาหลคืออะไร ต้องทำอย่างไรจึงสามารถควบคุม

Note : Alternative Universe - Eldritch Abominations






Chaos Theory

/ˈkeɪɒsˈθɪəri/

(noun)





ครั้งแรกที่พบโจ๊กเกอร์เป็นเวลาเดียวกับครั้งแรกที่ในสมองไม่ปรากฏบทสรุปใดมาชี้นำวิธีรับมือ

เหมือนตกลงไปบนสนามหญ้าโล่งกว้าง ไม่รู้ว่าจุดใดวางกับดัก ไม่รู้ว่าจุดใดซ่อนระเบิด ทางเลือกที่ดีที่สุดคือหยุดอยู่กับที่ แต่ซ้ำร้าย กับดักและระเบิดเหล่านั้นไม่ได้หยุดนิ่งเหมือนกับคุณ มันเคลื่อนที่ อย่างไร้ระเบียบ

‘รู้จักทฤษฎีความอลวนหรือเปล่า’

ข้อความผุดขึ้นกลางความว่างเปล่า คุณตะครุบมันไว้ด้วยปลายประสาท คัดแยกรื้อถอนมันออกมาจนถึงแก่น

ธรรมชาติของความโกลาหลคืออะไร

“คณิตศาสตร์!”

โจ๊กเกอร์ปรบมือพลางยิ้มร่า

“วิชาแสลงคอ วิชาแห่งตัวเลขที่ทะเยอทะยานจะอธิบายทุกอย่าง กระทั่งยอมแทนค่าด้วยตัวอักษร”

ปลายนิ้วใต้ถุงมือเก่าครึ สีม่วง มีลายปะชุน วางไพ่บนยอดหอคอยที่สร้างจากสิ่งเดียวกัน เงียบงันชั่วอึดใจ ไร้ความเคลื่อนไหว เพื่อเฝ้ามองเหตุการณ์ถัดไป เมื่อน้ำหนักทิ้งลง สิ่งใดจะชนะ แรงโน้มถ่วงหรือโครงสร้างอันซับซ้อนทว่าแสนเปราะบาง

สิบวินาทีผ่านไป ธรรมชาติพ่ายแพ้

โจ๊กเกอร์ถูมือ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วจึงเงยหน้า แสดงมาดละเหี่ยห้อย “ทำไม คุณคิดว่าฉันพูดมั่วซั่วเหรอ ฉันไม่ได้อ่านแต่วารสารซุบซิบดาราเสียหน่อย”

“ฉันไม่เห็นว่ามันเกี่ยวกันตรงไหน”

โจ๊กเกอร์กลอกตา “คอยแต่จะเข้าเรื่องตลอด ก่อนมุ่งสู่จุดหมายก็ควรจะโอ้โลมกันหน่อยนะ โดยเฉพาะเมื่อเราไม่ได้เจอกันมาสักพักใหญ่แล้ว” 

มือที่ประสานกันเลื่อนมารองใต้คาง สายตามองผ่านโพรงไพ่มากมายที่ดูคล้ายรวงผึ้ง 

“ข้างนอกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ที่รัก คุณเหงาหรือเปล่า มีคู่ควงคนใดทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นได้เท่าฉันไหม คุณเชื่อแล้วหรือยังว่าเราเป็นคู่เต้นรำที่สมบูรณ์แบบที่สุด”

ไม่มี คุณคิด — ไม่ตอบ คุณกระทำ

“เลิกนั่งหน้าบูดในความมืดแล้วพูดอะไรสักอย่างเถอะ” โจ๊กเกอร์โถมตัวนอนบนโต๊ะอย่างนุ่มนวล คงเกรงว่าจะทำปราสาทไพ่พังทลาย เขาเป็นคนเดียวในห้องที่นั่งอยู่ใต้แสงไฟ จากโคมไฟที่ส่องสว่างแด่เพียงนักโทษ

ขณะที่คุณอยู่ในความมืด ในที่คุ้มกันอันปลอดภัยจากดวงตาทั้งมวล ทุกสายตาควรจะมืดบอดเมื่อมองไปยังสิ่งที่อยู่นอกเหนือความสามารถในการมองเห็น แต่ตัวตนแห่งความวิปริตบ้าคลั่งไม่จำเป็นต้องพึ่งดวงตาเพื่อที่จะมองดู บางทีมันอาจไม่ต้องการมองเลยด้วยซ้ำ

คุณเอ่ย “มันเกี่ยวกับระบบที่มีความซับซ้อน…”

คุณมองเขาแหงนคอ ตาลุกวาวรับฟังคำกล่าวเหมือนคนทุกข์ยากที่เพิ่งพานพบแสงสว่าง

แต่คุณไม่ใช่แสงสว่าง คุณเป็นสิ่งที่อยู่ตรงข้ามโดยสิ้นเชิง ความจริงที่ว่าอาชญากรคนหนึ่งหมกมุ่นกับสิ่งที่ดำมืด ดื่มกินความกลัวอันเกิดจากความไม่รู้ จากความหนาวเย็นและอับจนปัญญา ทำให้คุณรู้สึกสะอิดสะเอียนพร้อมทั้งเวทนา

“...แต่อ่อนไหว”

คุณแตะปลายนิ้วที่สวมถุงมือดำเมื่อม ตรงปลายไพ่ใบหนึ่งที่เป็นฐานรองปราสาท

แค่แตะ

“แค่แรงกระตุ้นเพียงน้อยนิด ก็สร้างแรงสะท้อนมหาศาล”

และชักมือกลับ

ปราสาทไพ่พังครืนลงมาในพริบตาเดียว

โจ๊กเกอร์หัวเราะ แขนกวาดไพ่นับร้อยใบจนมันตกกระจายเต็มพื้น

เสียงหัวเราะสะท้อนไปมาในห้องทึบ

“ฟังดูคุ้นหู”

แน่นอนว่าต้องคุ้น มันเป็นสิ่งที่เจ้าชายแห่งอาชญากรรมชำนาญที่สุด

“บอกมาว่ามันอยู่ที่ไหน” คุณกล่าว

โจ๊กเกอร์ส่ายหน้า “ส่งคำถามมาได้จืดชืดมาก”

“เมื่อไหร่” คุณเปลี่ยนคำ

“น่าสนใจดีนี่ที่คุณคำนึงถึงเวลา”

“คิดแผนนี้ไว้ก่อนถูกจับเข้าอาร์คัมแล้วใช่หรือเปล่า”

“คุณไม่คิดเลยหรือว่าทำไม ฉันจึงต้องทำทั้งหมดนี้” โจ๊กเกอร์เอียงคอ

“ฉันไม่ใช่จิตแพทย์” ของนาย

“คุณก็ไม่ใช่ตำรวจสำหรับฉันเหมือนกัน การไล่จับสนุกดี แต่ถึงเวลาที่คุณควรจัดการในขั้นเด็ดขาดแล้วหรือยังนะ หวานใจ”

ถึงคราวคุณมองตาเขา ไม่เห็นไปพร้อมกับเห็น มีเพียงลายขดวกวนอยู่ในเบ้าตานั้น พร้อมทั้งประตูหลายบานที่นำไปสู่หลากหลายเส้นทาง แต่สิ้นสุดลงในสภาวะเดียว

ครั้งหนึ่ง เขาเคยทำให้คุณไม่กล้าเดินข้ามประตู ไม่ว่าประตูบานใดก็ราวกับพืชกินเนื้อเผยอปากอ้ารอแมลงสักตัวมาตกหลุมพรางอันเปี่ยมสีสัน การหลงทางไม่อาจเลี่ยงได้เมื่อตกลงไป ทว่าสิ่งที่เสียไปจะไม่ได้มีแค่เวลา แต่ยังรวมถึงจิตใจ

“เมื่อไหร่” คุณถามอีกครั้ง

โจ๊กเกอร์ส่ายหน้า ทั้งตาทั้งปากฉีกยิ้มกว้างเสียจนเนื้อหนังแทบปริแยก

“เวลาไม่ใช่เส้นตรง เส้นด้าย หรือใยแมงมุมที่เรียกว่าทางเลือก เวลาคือแนวคิดในการวางกฎเกณฑ์ครอบลงบนความยุ่งเหยิง”

“แต่นั่นคือสิ่งที่ฉันทำมาตลอดไม่ใช่เหรอ” คุณพูดทันควัน

ประโยคนี้คล้ายปิดกลไกการทำงานของตัวตลก หากเขาเป็นตุ๊กตาไขลาน รอบหมุนของเขาก็บังเอิญสิ้นสุดลงที่ตรงนี้

แต่ตุ๊กตาตัวนี้หมุนฟันเฟืองได้ด้วยตนเอง

“มาแลกกัน” โจ๊กเกอร์นั่งตัวตรง เท้าศอกบนโต๊ะ จำอวดภาพผู้เอาการเอางาน “เอาฉันออกไปจากห้วงมืดไร้สิ้นสุดนี้ แล้วฉันจะบอกว่ามันอยู่ที่ไหน”

“ไม่ใช่เวลาไหนแล้วหรือ”

“อย่าแย่งหน้าที่กันสิ มุกตลกเป็นกิจธุระของฉัน”

“ถ้าปล่อยออกไป ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าจะไม่มีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นอีก”

“คุณจะไม่รู้ แต่ถ้าลองพิจารณาแล้ว คุณน่าจะเห็นแก่ภัยร้ายในปัจจุบันมากกว่าอนาคตหรือเปล่า”

เขาคิดมาอย่างดี “แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าทุกอย่างนี้ไม่ใช่การจัดฉาก”

โจ๊กเกอร์หัวเราะ “ฉันเป็นฝ่ายถูกขัง”

“แต่นายทำเหมือนกำลังเล่นในสวนสนุก”

“จะนับเป็นสวนสนุกได้ยังไงหากขาดแสงสี คุณไม่ให้อะไรเลยนอกจากความมืด ถึงฉันจะจินตนาการกลเกมได้ในนี้ แต่มันก็เป็นเพียงโครงร่างเงาทึบ น่าเบื่อ” โจ๊กเกอร์โน้มตัวลง ด้วยร่างกายผอมสูง ขยับท่าทางกระตุกงอผิดธรรมชาติ กระทั่งจัดวางตัวด้วยการเท้าคางอีกครั้ง “นอกจากคุณแล้ว ความมืดอื่นใดล้วนไร้รสชาติ”

หลอดไฟกะพริบวิบวาบ ความมืดขยับไหวดังจะเข้าขยุ้มเหยื่อ

คุณเอนตัวลง ไม่ใช่เพราะปลงใจได้กับผลสรุป

“ฉันจะปล่อยนายออกไปก็ต่อเมื่อนายทิ้งเงาของตัวเองไว้ที่นี่”

โจ๊กเกอร์แสดงทีท่าสนใจ “เงาของฉัน? หากคุณได้มันไปคุณก็จะสามารถตามฉันไปได้ทุกที่อย่างนั้นสิ”

เขาจับทางได้ไวอย่างน่ากลัว ราวกับล่วงรู้ความคิด วิธีการคิด ราวกับว่าเขาฝังประตูไว้ในหัวของคุณนับแต่ที่คุณหลงทางอยู่ในวงกตแห่งความโกลาหล

ตัวของโจ๊กเกอร์ยังคงนั่งนิ่ง แต่สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงการกระทำอื่น

เหมือนต้องการจะบิดเบือนช่วงเวลานี้ เหมือนกระหายจะทำลายเส้นทางที่กำลังจะนำไปสู่ทางออก ดวงตาหลุกหลิก แลหาเรื่องสนุกสนาน หาวิธีการที่จะทำให้ทุกอย่างวิ่งพล่าน กระสานซ่านกลับสู่ความไร้ระเบียบแบบแผน

แต่สุดท้าย “ตกลง”

เขากระซิบ แผ่วเบาเหมือนปีกผีเสื้อ

สะเทือนถึงเหตุการณ์นับร้อยพันในก็อทแธม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น