วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2565

[MHA] Flammable (Dabi/Hawks)


Flammable

Boku no Hero Academia

— Dabi / Hawks —

Warning : Sexual assaulted and Dubious consent

Summary : ข้อบังคับของการเป็นสายลับคือต้องตอบรับทุกครั้งที่ฝ่ายตรงข้ามตามตัว

Note : Spoiler Alert for Chapter 191





บางครั้งฮอว์คก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงปล่อยให้เหตุการณ์เลยเถิดมาถึงจุดนี้

สำหรับคนรักสบาย การเป็นสปายสองหน้าไม่ตอบโจทย์ชีวิตเรียบง่ายเอาเลย แต่คิดให้ดีแล้ว หากเขารักวิถีสงบราบรื่นจริงก็คงไม่เลือกเส้นทางอาชีพสายนี้ ความย้อนแย้งเกิดขึ้นมากมายบนโลกไม่พอยังเกิดภายในอาณาจักรเล็ก ๆ ของคนอย่างเขาอีก ช่างเป็นเรื่องตลกร้ายที่ขำไม่ออก

ช่วยไม่ได้ กว่าจะรู้ตัวปีกก็กระพือนำไปก่อนแล้ว เมื่อมีสิ่งกระตุ้นอย่างเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ร่างกายมันก็ทำงานก่อนสมองจะคิดตามทันตลอด ที่ยอมรับงานแฝงตัวนี้เองก็คงโทษระบบประสาทอัตโนมัติอย่างเดียวไม่ได้ ยิ่งหลังจากตอบรับคำเชิญของหนึ่งในสมาชิกสมาพันธ์เหล่าร้ายยิ่งโทษอะไรอื่นไม่ได้เลยนอกจากตัวเอง

ดนตรีหวีดแสบแก้วหูกับคนจำนวนมากที่กำลังยักย้ายส่ายสะโพกกันอย่างเสียสติคือภาพที่ปรากฏหลังเดินออกมาจากวาร์ป ฮอว์คดึงหมวกของเสื้อฮู้ดลงมาปิดบังใบหน้าให้มิดชิดขึ้น นึกอิจฉาดาบิเล็กน้อยที่แค่สวมผิวหนังปกติก็กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมอย่างสบาย ๆ

“เรามาทำอะไรที่นี่นะ” ทีแรกฮอว์คคร้านจะถาม แต่ความสงสัยก็เอาชนะไปได้ในที่สุด

“นึกว่าจะไม่ถามแล้ว” ดาบิหันมาส่งรอยยิ้ม พยักพเยิดไปยังที่นั่งตรงบาร์ที่มีบาร์เทนเดอร์ประจำอยู่

ฮอว์คตามไปอย่างว่าง่าย ตีหน้าเบื่อหน่ายโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมาย เขากำลังเบื่อจริง ๆ บาร์ใต้ดินกับดนตรีสดขาดรสชาติไปนานแล้วสำหรับคนที่ใช้ชีวิตวัยเรียนอย่างสุดเหวี่ยง และถ้าให้เดา งานหนนี้คงเป็นเรื่องของฝีปากมากกว่ากำปั้น ซึ่งยุ่งยากกว่าเป็นเท่าตัวเพราะเขาไม่สามารถใช้วิธีลัดให้มันเสร็จสิ้นโดยเร็ว

ดาบิสั่งวิสกี้ ส่วนเขาแกว่งเท้าหาเสี้ยนเล่นด้วยการสั่งน้ำส้มผสมโซดา

บาร์เทนเดอร์ส่งสายตาอึมครึม “คำสั่งที่ให้มาคงไม่ได้มีส่วนไหนคล้ายกับเขาใช่ไหม”

“แน่นอนว่าไม่ เราเป็นมืออาชีพ หมอนี่มันเด็กใหม่” ดาบิแสยะยิ้ม มือที่ใช้เท้าคางเลื่อนออกมาข้างหน้า กำหลวม ๆ ขยับนิ้วชี้กับนิ้วโป้งแตะกัน

บาร์เทนเดอร์หัวเราะขึ้นจมูก หลังจากเช็ดแก้วจนไม่อาจสะอาดไปได้มากกว่านี้ก็เดินเข้าประตูที่อยู่ด้านหลัง “รอสักครู่”

ฮอว์คแอบทอดถอนใจ แผนยุแยงแบบเด็ก ๆ เทียบไม่ได้กับอำนาจของเงินจริง ๆ นั่นแหละ

ดีที่อย่างน้อยมันไม่อยู่ในลักษณะงานของเขา แค่ตอดเอาข้อมูลทั้งสองฝ่ายมาป้อนสลับข้างกันก็พอ ที่น่าสนใจคือนี่ไม่ใช่ทั้งงานเจรจาและงานใช้กำลัง “เด็กใหม่เหรอ” ฮอว์คกล่าว เสียงอึกทึกทำให้ต้องขยับเข้าไปใกล้ดาบิอีกนิด เขาไม่อยากตะโกนให้ต้องเจ็บคอทีหลัง “ฉันอยู่ในฐานะเด็กฝึกงานหรอกเหรอ ไม่ไว้หน้ากันเลยนะ”

“แค่นี้ก็ถือว่าเลื่อนขั้นมาไกลแล้วสำหรับคนน่าสงสัยอย่างนาย” ดาบิมองจากหางตา มุมปากยกขึ้นพร้อมจิบเครื่องดื่ม ดูน่าขนลุกโดยไม่จำเป็นต้องเห็นเนื้อแท้และตะเข็บเย็บ “ยังไงฉันก็คิดว่ามันเหลือเชื่อเกินไปหน่อยที่คนอย่างนายมาขอร่วมมือกับพวกเรา”

“ถ้านายว่าอย่างนั้นฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด” ฮอว์คแบมือสองข้าง

“ไม่อยากแก้ต่างให้ตัวเองหน่อยเหรอ”

“แก้ต่างอะไร ไม่มีอะไรให้แก้นี่ การกระทำของฉันก็ชัดเจนพออยู่แล้ว”

ทันทีที่กล่าวจบ สีฟ้าเทอร์คอยซ์อันเฉียบแหลมก็กวาดมามองเขาอย่างเต็มตา

ฮอว์คเพิ่งตระหนักว่าพวกเขาสบตากันน้อยครั้งแค่ไหน นี่อาจเป็นปัญหาได้ เขาเป็นนักสังเกตการณ์จึงรู้ว่าท่าทางใดที่อาจเปิดโปงตัวเอง แต่ในทางกลับกัน ความรู้เท่าทันก็นำมาซึ่งการต้องแบกรับข้อเท็จจริงอีกประการหนึ่งที่หนักหนายิ่งกว่า

คนประเภทเดียวกันมักมองกันออก

“ที่พาตัวฮีโร่อันดับหนึ่งมา...ไม่ได้การันตีความภักดีให้เห็นเท่าไหร่นะ”

ฮอว์คจับอารมณ์แฝงที่เข้มข้นกว่าปกติได้ในทันที

สีฟ้าที่ควรจะเย็นเยียบกลับทำให้รู้สึกร้อนรนเสียอย่างนั้น

“ไหนจะการที่ไม่คนตายเลยในปฏิบัติการแรกอีก” ดาบิยิ้มเย็น สีแดงสดและรอยเย็บราวกับชัดขึ้นภายใต้แสงวับแวมเหนือหัว ท่วงท่าที่ดูปลอดโปร่ง ดูสบายเกินไปทำให้ฮอว์คอยู่ไม่สุข

ดาบิทำเหมือนรู้ ทำเหมือนกำลังเล่นกับเหยื่อที่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ในกำมือ

ท่าไม่ค่อยดีเอาซะเลย “บอกแล้วไงว่าต้องรักษาภาพลักษณ์ มีโอกาสล้วงข้อมูลดี ๆ แล้วก็ควรยื้อไว้ให้นานที่สุดสิ” ฮอว์คเอ่ย แก้ทางด้วยวิธีที่ประหยัดพลังงานที่สุดที่นึกออก คือปล่อยเบลอ

จะเชื่อหรือไม่ ยังไงทั้งสองฝ่ายก็ได้ประโยชน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง นี่คือข้อเสียร้ายแรงของการใช้คนแบบเขามาเป็นสายลับ ทั้งตัวตนและพฤติกรรมซึ่งตกอยู่ในที่แจ้งยากจะหลอกวายร้ายที่ระวังตัวสุดกู่ให้เชื่อถือ

แต่ตอนนี้ดาบิยอมผละออกไปแล้ว ฮอว์คกะพริบตา ถูกความจริงที่คล้ายลิ่มน้ำแข็งฟาดเข้าให้ พวกเขาอยู่ใกล้กันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ท่ามกลางความคิดปั่นป่วนวุ่นวาย บาร์เทนเดอร์ก็กลับมาพร้อมกับวางแก้วทรงทิวลิปที่มีของเหลวสีฟ้าอยู่ข้างในแล้วดันไปหาดาบิ ราวกับแค่ยื่นค็อกเทลธรรมดาให้ลูกค้า

ดาบิหยิบมันขึ้นมอง แกว่งดูสองสามครั้งก่อนดม เหมือนผู้เชี่ยวชาญกำลังตรวจคุณภาพไวน์ ขาดก็แค่กรอกเข้าปากเท่านั้น แต่ภายในสถานที่ที่แสงส่องไม่ทั่วถึง เห็นอะไรก็คล้ายภาพแฟลชเดี๋ยวสว่างเดี๋ยวมืดอย่างนี้ วิธีการตรวจสอบออกจะบกพร่องด้านมาตรฐานอยู่นะ

แต่ดูเหมือนสภาพแวดล้อมไม่ได้เป็นอุปสรรคเลย ดาบิวางแก้วลง ดูพึงพอใจ “ใช้ได้ ทำทันใช่หรือเปล่า”

“ทางนี้ก็มืออาชีพเหมือนกัน” บาร์เทนเดอร์พูดเสียงติดกระด้างและเหลือบตามามองเขา ฮอว์คส่งยิ้มกว้างตอบ

“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่ตกลงกันไว้เหมือนเดิม” ดาบิลุกขึ้น ฮอว์คเลิกคิ้ว มองสลับระหว่างบาร์เทนเดอร์ที่กลับไปทำหน้าที่ตามเดิมแล้วกับอีกฝ่ายอย่างงุนงง

“แค่นี้?”

ดาบิหัวเราะหึ “ใช่”

“ไม่เห็นจำเป็นต้องเรียกฉันมาเลย” ฮอว์คลุกตาม ไม่เก็บซ่อนความสงสัยใด ๆ ในน้ำเสียงทั้งนั้น เป็นบททดสอบอีกงั้นเหรอ แต่มันชัดเจนเกินไปหรือเปล่า

อีกอย่างนี่ตีสองนะ เขาควรได้นอนพักผ่อนอย่างที่กฎหมายแรงงานกำหนดชั่วโมงไว้สิ

เพราะกำลังคิดงุ่นง่านอยู่ในใจ เขาไม่ทันระวังถูกนักท่องราตรีเบียดจนเซถลาไปทางหนึ่ง ฮู้ดเกือบตกจากศีรษะ แต่มันถูกดึงกลับมาปิดเส้นผมสีบลอนด์ทันท่วงที

ดาบิดึงตัวเขาเข้าไปใกล้ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “นั่นสิ ไม่น่าพานายมาเลย”

“งั้นก็รีบกลับ” ฮอว์คยื้อตัวออก แต่ดาบิดึงแขนทั้งสองข้างของเขาไว้จนยืนชิดกัน

อันที่จริงไม่จำเป็นต้องดึงเลย คนรอบข้างเบียดเข้ามาแทบจะอัดพวกเขาสองคนให้รวมร่างกันอยู่แล้ว

“รีบไปไหนล่ะ”

“นอน ฉันขี้เกียจมากนะเผื่อนายไม่รู้”

“ฉันว่าฉันรู้นะ” ดาบิก้มหน้าเข้ามา ลมหายใจของเขาร้อนเหมือนไอเหนือน้ำเดือด ฮอว์คต้องควบคุมตัวเองอย่างมากเพื่อไม่ให้เผลอสลัดขนปีกมาแย่งชิงพื้นที่หายใจคืน “มีคนมองเราอยู่”

“หืม”

“พูดให้เจาะจงกว่าคือ เมื่อกี้ตอนโดนชนมีคนสังเกตเห็นนาย” ดาบิกระซิบข้างหู “ยุ่งยากจริง ๆ เลยนะ พ่อฮีโร่อันดับสอง”

“แค่สลัดให้หลุดก็พอไม่ใช่เหรอ” ฮอว์คพูด

ดวงตาของดาบิแฝงเล่ห์นัย “เห็นใครบางคนบอกไว้ว่าต้องรักษาภาพลักษณ์”

ฮอว์คหยุดคิด ในจังหวะเดียวกับที่เพลงทิ้งช่วงแล้วขึ้นดนตรีใหม่ ท่วงทำนองนี้ผ่อนคลายประสาทกว่าเดิมมาก กระทั่งแสงที่ฉายวับแวมก็เปลี่ยนมาหมุนทวนเชื่องช้า คนเริ่มจับคู่โอบคอและขยับตัวอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย เหมือนกำลังเต้นรำ มีแค่พวกเขาที่ยืนนิ่งกับที่

ฮอว์คเอ่ยเสียงหน่าย “ฉันบอกว่าสลัดให้หลุด ไม่ใช่กำจัดทิ้ง”

“อ้อ”

“และถ้าใช้วิธีฆ่าก็อาจจะไปสะดุดความสนใจใครเข้า”

ดาบิพูดยิ้ม ๆ “นี่นายอยากร่วมมือกับพวกเราจริงเหรอ”

“ฉันกำลังให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์อยู่ หรือไม่ใช่?” ฮอว์คฉีกยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา

“ตอบยากนะในสถานการณ์นี้ เพราะการฆ่ามันเสียประโยชน์กว่ามากจริง ๆ” ดาบิรวบเอวเขาเข้าหา และด้วยความกระอักกระอ่วนที่ดูเหมือนเขาจะรู้สึกเพียงฝ่ายเดียว ดาบิเริ่มขยับ “เป็นอย่างนี้แล้ว จะทำยังไงให้พวกเขาเลิกสนใจพวกเราดี”

ยังไม่ทันเสนอความคิด มือที่ค้างอยู่ช่วงเอวก็เลื่อนขึ้นตามแนวกระดูกสันหลังมาถึงท้ายทอย ฮอว์คขนลุกเกรียว ความรู้สึกผวาร้องลั่นในหัวเมื่อจุดโจมตีถึงตายถูกแตะต้อง ปีกคู่แทบจะกรีดโฉมออกจากแผ่นหลังหากไม่ใช่ในเวลาเดียวกันนั้นเขาถูกดันให้รับจูบ

ฮอว์คเบิกตากว้าง มองเข้าไปในเปลวเพลิงสีฟ้าซึ่งวูบไหวไม่หยุดจนกระทั่งถูกปล่อยเป็นอิสระ

ไม่มีใครทนจับตามองคนที่กำลังพลอดรักกันได้อย่างสะดวกใจ หนึ่งในวิธีการทางจิตวิทยาเพื่อพรางตัว

ผลสำเร็จคงน่าประทับใจ ควรจะต้องได้ผล ถึงกระนั้นก็สุดตะลึงที่ใช้วิธีการนี้ “ทำเกินกว่าเหตุไปหน่อยหรือเปล่า” ฮอว์คกัดฟันยิ้ม นี่ยังไม่เอ่ยถึงว่าคำพูดจากปากของวิลเลนตรงหน้าเชื่อได้หรือเปล่า เขายังไม่ทันสังเกตเห็นตัวต้นเหตุนั้นเลยด้วยซ้ำ

แต่แทนที่จะตอบ แน่นอน ดาบิกลับเล่นลิ้นคืน เขาเลียริมฝีปาก สื่อสารความหมายใต้น้ำเสียงออกมาอย่างชัดแจ้ง “หมายถึงเรื่องไหนล่ะ”

พอกันที ฮอว์คดันตัวออกจากอ้อมแขนอีกฝ่ายแล้วเร่งฝีเท้าออกจากที่นี่

เสียงหัวเราะดังไล่หลัง

ทั้งที่อยู่กลางเสียงดนตรีสนั่นลั่น มันกลับลอยเข้าหูมาเหมือนไฟลามเชื้อ


2 ความคิดเห็น:

  1. งมหาช่องคอมเมนต์อยู่นานพอตัวกว่าจะเจอค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่ผ่านไปตั้งวันนึงแล้วเพิ่งจะกลับมาคอมเมนต์ให้ เราตาถั่วแบบกู่ไม่กลับของจริง ไม่รู้ข้อความจากเราจะส่งถึงคุณหรือเปล่า ไม่อยากแวะมาเสพแล้วจากไปเฉย ๆ จริง ๆ หวังว่าจะไม่รบกวนจนเกินไปนะคะ

    เราชอบวิธีการเล่าของคุณมากเลยค่ะ เรียบเรียงได้อ่านง่ายแต่มึชั้นเชิงอยู่ในตัว เห็นภาพชัด บรรยากาศก้ชัดเจน เป็นการเล่าที่เราไม่เจอในแฟนฟิคนานหลายปีแล้วเหมือนกัน ได้มาเจองานคุณก็เหมือนต้นไม้ได้ฝน; - ; แล้วเป็นดาบิ/ฮอว์กในแบบที่เราตามหา ดาบิเจ้าเล่ห์สมนิสัย ไม่เชื่อใจแต่แรก แต่ก็อยากแหย่ให้อีกคนรู้สึกอยู่ไม่สุขนี่มันสมเป็นพี่จริง ๆ เชียว ส่วนฮอว์กก็ด้วย หล่อทะเล้น คิดว่าเก็บงำได้มิดเมี้ยนแต่ก็ขี้เกียจเกินจะกลับมาดูว่าทำหน้าที่สายลับได้เนียนจริงไหม เป็นฮอว์กที่ง่วงงุน ที่ไม่รู้อะไรเป็นอะไร ชอบที่บอกจะปล่อยเบลอเพื่อเข้าโหมดประหยัดพลังงานมากเลยค่ะ ดาบิคงขำในใจ ตรงจูบก็ด้วย ดีฮอว์กไม่ตกใจจนสยายปีก เป็นแบบนั้นคงแผนพังกันหมด ไม่รู้แผนที่ว่ามีคนแอบมองอยู่หรือแผนหลอกจูบที่เป็นเรื่องจริง เพราะอ่านถึงตอนฮอว์กบอกว่าไม่ทันเอะใจ อะไรจริงอะไรปลอม เราก็เออออไปด้วยเลยค่ะ แบบว่า นั่นสิ แล้วมันจริงหรือเปล่า หรือแค่หลอกจะแต๊ะอั๋งเฉย ๆ 5555 แต่ก็คงสนุกดาบิเขาล่ะค่ะ ไม่ได้เชื่อใจตั้งแต่แรกนี่เนอะ ก็ช่วยไม่ได้ อะไรอย่างนั้น เป็นเรื่องสั้นที่ทำให้อิ่มเอมก่อนนอนได้ดีมากเลยล่ะค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะที่เขียนออกมา จะเขียนไว้นานแล้วหรือยังไงก็ตาม ขอบคุณที่เขียนจริง ๆ ค่ะ ขอให้เป็นวันที่ดีของคุณนะคะ แล้วก็ขอโทษที่อาจเป็นคอมเมนต์วนเรือในอ่าง เราชอบทุกอย่างที่ประกอบเป็นงานเขียนชิ้นนี้จากใจจริงค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คอนเมนต์ที่มาจากใจไม่ว่านักเขียนคนไหนก็ชอบอ่านค่ะ ไม่จำเป็นต้องขอโทษเลย เราก็ขอบคุณมากนะคะ คุณบอกว่าตัวเองเหมือนต้นไม้ได้ฝน เราเวลาได้รับคอมเมนต์ก็เหมือนเมฆได้ลมพยุงค่ะ ดีใจมากๆเช่นกัน เราเพิ่งเห็นคอมเมนต์เลยมาตอบช้าหน่อย แต่ก็ขอให้เป็นวันที่ดีของคุณด้วยนะคะ ❤️

      ลบ