วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2565

[DCU] Under A Black Umbrella (Oswald/Jim)


Under A Black Umbrella

DCU (Comics), Batman, Gotham (TV), Batman (Movies - Nolan)

— Oswald Cobblepot / Jim Gordon —

Warning : N/A

Summary : วันหนึ่งที่ฝนคลุมเมืองราวหมอกหนา ไม่มีใครสังเกตว่าผู้บัญชาการตำรวจยืนใต้ร่มคันเดียวกับใคร

Note : Alternate Universe - Canon Divergence





จิม กอร์ดอน เงยหน้ามองท้องฟ้าอย่างละเหี่ยใจ

สีเทาอึมครึมอันเป็นสีสันปกติของก็อทแธม เวลานี้ยิ่งครึ้มมืดกว่าปกติแม้พระอาทิตย์ยังไม่ควรลับขอบฟ้า ลมเย็นย่ำปะทะหน้าและหยดน้ำกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย เสียงซ่าเหมือนวิทยุเสียสัญญาณกดความกระฉับกระเฉงลงทั้งยังทิ้งความฝืดเคืองระหว่างข้อต่อ — ฝนตกติดกันมาหลายวันแล้ว แต่จิมก็ไม่วายลืมพกร่มมาจากบ้านเสียทุกที รถยนต์ส่วนตัวหรือก็ส่งเข้าอู่มาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรเมื่อเขาดันทุรังใช้มันมาเกือบสิบห้าปีเต็ม

วันพรุ่งนี้จะไม่เป็นแบบเดิมอีก จิมคิดในใจแล้วกระชับกล่องเอกสารในอ้อมแขนแน่น 

แม้เลื่อนขั้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแล้ว เขาก็ไม่ยอมปล่อยตัวปัดภาระให้คนอื่นโดยไม่จำเป็น เขายังคงทำงานหนัก อาจจะหนักกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ เพราะการได้มายืนบนจุดสูงสุดนี้คือโอกาสที่เฝ้าฝันมานาน โอกาสที่จะล้างระบบเก่า ๆ และสร้างหน่วยงานที่ปลอดการทุจริตอย่างแท้จริง

นั่นจึงเป็นเหตุให้เขามักเลิกงานดึกดื่น แต่กระทั่งวันที่พยายามเลิกงานก่อนเวลาแล้วก็ยังมีเหตุเข้ามาวุ่นวายไม่ขาดสาย และสำหรับวันนี้ก็คือการติดฝนหน้าสำนักงานตำรวจพร้อมกับกล่องเอกสารสำคัญที่ไม่อาจปล่อยให้น้ำกระเซ็นโดนจนเสียหาย จิมทอดถอนใจแกมขบขันกับสถานการณ์ของตนเอง มือยกขึ้นดันแว่นสายตาอย่างเคยชินแล้วเพ่งสายตามองฝ่าสายฝนไปยังฝั่งตรงข้าม เขาพบว่าถัดไปหนึ่งบล็อกมีรถแท็กซี่จอดอยู่

ฝนไม่มีทีท่าจะหยุดเลยสักนิดและเขาก็อยากกลับบ้านไปนอนซุกใต้ผ้าห่มหนานุ่มเต็มแก่ แค่เดินตากฝนครู่เดียวคงไม่ถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ จิมชั่งใจก่อนย่อตัวลงวางกล่องเอกสารแล้วถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกมาคลุมมันไว้ ขณะยันตัวขึ้นเตรียมจะวิ่งออกจากที่กำบัง เงาสีดำก็เคลื่อนเข้ามาทาบทับเหนือศีรษะอย่างรวดเร็ว

จิมสะดุ้งก่อนเหลียวมองคนที่เข้ามาใกล้โดยที่เขาไม่รู้สึกตัว เขาเลิกคิ้วเมื่อพบรอยยิ้มเป็นมิตรเกินพอดีบนใบหน้าที่แสนคุ้นเคย “คอบเบิลพ็อต”

เพนกวิ้นส่ายหน้า “ฟังดูห่างเหินเกินไปหน่อยไหม เรียกออสวอลด์สิ”

แต่นั่นคือสิ่งที่จิมต้องการ ระยะห่าง สำหรับตำรวจกับมาเฟียแล้วความสนิทสนมควรเป็นอย่างสุดท้ายที่เกิดขึ้นได้ของสองฐานะนี้

“นายมาทำอะไรที่นี่” จิมถาม

“มาช่วยไม่ให้คุณต้องตัวเปียกปอนกลับบ้านไปอีกหนึ่งวันไงล่ะ” เพนกวิ้นยักไหล่ ตัวเซเล็กน้อยขณะขยับร่มสีดำคันใหญ่ขึ้นชู เสียงพรึ่บดังขึ้นก่อนที่ทั้งสองจะตกอยู่ใต้เงามืด

จิมไม่ปิดบังความเคลือบแคลง “นายตามดูฉันงั้นเหรอ”

“เรียกว่าเป็นการสังเกตการณ์น่าจะถูกกว่า”

นายตำรวจเลิกคิ้ว รู้สึกกังขาอย่างที่สุด

ออสวอลด์ยักไหล่ เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปสู่สิ่งที่ตั้งใจไว้แต่แรก “ผมไปส่งนะ”

“ไม่จำเป็น” จิมตัดบท “ฉันว่าจะนั่งแท็กซี่คันนั้นกลับพอดี”

จิมหันกลับไปมองในจังหวะเดียวกับที่ประตูสีเหลืองขยับปิด รถแท็กซี่ที่กล่าวถึงเปิดไฟเลี้ยวแล้วฝ่าสายฝนเคลื่อนออกไปตามเส้นถนน

จิมมองตาปริบ สบถเบา ๆ กับตัวเอง ทว่ายังหันกลับมาทางออสวอลด์ด้วยสายตาปฏิเสธหนักแน่น

“โธ่จิม มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย และแถวนี้ก็ไม่มีใครสักคน” ออสวอลด์ยกแขนสองข้างขึ้นเอ่ยฮึดฮัด

เพียงแค่หนึ่งในหัวหน้ากลุ่มมาเฟียมาปรากฏตัวหน้าสำนักงานตำรวจก็ชวนตั้งข้อสงสัยแล้ว จิมไม่อยากเสริมแรงกระตุ้นให้เกิดข่าวลือใด ๆ อีก เขาสบตาอีกฝ่ายนิ่ง และเพนกวิ้นก็สบตอบอย่างไม่หลบเลี่ยง แต่แทนที่จะซ่อนนัยกลับกลอกหรือยกโค้งอย่างผู้ที่รู้ว่าตนเหนือกว่า มันกลับแสดงสิ่งที่จิมไม่นึกว่าจะได้เห็นจากคนที่มีตำแหน่งไม่ธรรมดาในโลกใต้ดินและใจกล้าบ้าบิ่นพอจะทำงานร่วมกับบรรดาอาชญากรลือชื่อของอาร์คัม — มันคือการเว้าวอน

จิมไม่ไว้ใจเพนกวิ้น แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็เชื่อมั่นในสัญชาติญาณของตนเอง และคราวนี้มันบอกว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดเล่นตุกติกเหมือนเคย

เมื่อจับท่าทางลังเลได้ ออสวอลด์รีบพูดต่อ “แค่นั่งรถไปด้วยกันเท่านั้น จิม สัญญาว่าจะไม่ออกนอกเส้นทาง ไม่มีการซ้อนแผน และไม่มีเรื่องผิดกฎหมายหรือผิดศีลธรรมเข้ามาเกี่ยว มีแค่เราสองคน... เอ่อ กับคนขับรถอีกหนึ่ง”

นายตำรวจเม้มปาก เสียงฟ้าร้องคำรามราวกับจะเร่งให้เขาตัดสินใจ

“ก็ได้” จิมถอนหายใจ ดูเหมือนเขาจะถอนหายใจบ่อยครั้งจนติดเป็นนิสัยเสียแล้ว “นำไปสิ”

“ได้ทันที” เพนกวิ้นหยิบมือถือในกระเป๋าเสื้อโค้ทออกมาส่งข้อความ เพียงไม่ถึงครึ่งนาที รถลีมูซีนสีดำก็เข้ามาจอดเทียบหน้าสำนักงานตำรวจ 

“ไปกันเถอะ” เอ่ยด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นก่อนจะเปลี่ยนมือที่ถือร่มและเอียงมันตามแนวลม

ร่มมีขนาดใหญ่ ละอองฝนจึงแทบไม่โดนร่างกายส่วนบน แต่กับขากางเกงและรองเท้าที่เปียกแทบจะทันทีที่ก้าวออกถนนนั้นเกินจัดการป้องกัน เพนกวิ้นเป็นฝ่ายเปิดประตูให้เขาเข้าไปก่อน จิมไม่รีรอวางท่า เขาก้มห้วก้าวเข้าไปนั่งเบาะด้านใน มองไปรอบ ๆ ระหว่างที่ออสวอลด์หุบร่ม รู้สึกเหมือนตกลงมาในโพรงกระต่าย เพราะเงินเดือนยี่สิบปีรวมกันของเขาอาจยังไม่พอเอามาใช้ซื้อล้อรถคันนี้ด้วยซ้ำ 

จิมวางกล่องเอกสารบนตัก เหลียวหน้ามองผ่านกระจกฟิล์มออกไปข้างนอก จากหางตา เขาเห็นออสวอลด์ขยับตัวราวกับนั่งไม่ติด เหมือนอยากเอ่ยอะไรสักอย่างเพื่อทำลายความเงียบนี้ แต่สุดท้ายก็มีเพียงเสียงฝนพรำรอบตัวกับความเย็นที่ไต่ตอมจากเนื้อผ้าสู่ผิว

เบาะนุ่มสบาย อากาศเย็นตัดความอบอุ่นจากฮีทเตอร์ กล้ามเนื้อและไหล่ที่ตึงทั้งวันค่อย ๆ คลายลง จิมไม่ได้ตั้งใจปล่อยน้ำหนักทั้งหมดลงแนบกับที่นั่งหรือพนักพิง ดวงตาปรือลง เขารู้ว่าไม่ควรทำตัวประมาทต่อหน้าเพนกวิ้น แต่อาการล้าสะสมคล้ายประโลมกล่อม เหมือนหยดน้ำกัดเซาะกำแพงให้กร่อนลงทีละนิด

เปลือกตาของเขาปิดลงในที่สุด ลมหายใจผ่อนยาวก่อนที่ถัดจากนั้นจะเข้าออกสม่ำเสมอ

และทุกอย่างก็ตกอยู่ในสายตาของออสวอลด์มาตลอด

จิมหลับไปแล้ว ใบหน้าที่ร่วงโรยไปตามกาลเวลาดูซูบซีดกว่าในอดีต ความกระด้างและดื้อรั้นยามหนุ่มได้รับการขัดเกลาโดยประสบการณ์จนกลายมาเป็นจิม กอร์ดอน คนปัจจุบัน คนที่ยากเข้าหา ยากคาดเดาความคิด และมอบเฉพาะสายตาระแวดระวัง 

สิ่งหนึ่งที่ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนคือหลักการกับความเถรตรงที่ดึงดูดเขาอยู่เสมอ

ความรู้สึกคงเป็นอีกหนึ่งอย่างที่หากกาลเวลาไม่พรากก็เติมเต็มเสมือนว่าคนไร้ขีดจำกัด

ออสวอลด์เคยตัดสินว่าชายคนนี้เป็นเพียงคนไร้เดียงสา ยึดติดกับอุดมการณ์ที่ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง เป็นคนประเภทที่ไม่คู่ควรกับก็อทแธม และจะถูกเมืองนี้กลืนกินในที่สุด

แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปดังคาด จิมไม่เคยหมดหวัง แม้ยามที่ความจริงทิ่มแทงกรีดแผลกลัดหนอง ยามที่พบว่าสิ่งที่ครอบงำเมืองนี้รุกล้ำไม่เพียงปรากฏผ่านสายตาแต่ยังเป็นสิ่งที่ไม่อาจจับต้อง แม้วันที่ทุกอย่างตะโกนกลับว่าเกินเยียวยา เขาก็ยังไม่ยอมหมดหวัง เหมือนดวงไฟเล็ก ๆ ท่ามกลางความมืด — แต่กับความมืดที่มืดมนอย่างที่สุดก็ต้องถอยร่นให้กับดวงไฟดวงน้อย

ออสวอลด์อาจเรียกอีกฝ่ายว่ามิตรสหาย แต่เขาไม่เคยลดราวาศอก สำหรับโลกใต้ดินการอ่อนข้อไม่ต่างจากการดูหมิ่นที่แสนหยาบคาย เขาจะไม่ลังเลหากต้องทำลายจิม และเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายก็จะไม่ลังเลสักนิดหากมีโอกาสจับเขาเข้าคุกแบล็กเกท การเข้าฟาดฟันกันด้วยทุกอย่างที่มีนั้นต่างหากคือความเคารพซึ่งกันและกัน

ทว่านาน ๆ ครั้ง เขาก็จะปล่อยตัวดื่มด่ำกับความสุขกายสบายใจชั่วครั้งชั่วคราว เพราะจะเป็นอาชญากรที่ดีได้อย่างไรหากสยบใต้กฎโดยไม่กระทำตามใจปรารถนา ออสวอลด์เอื้อมมือออกไปวางบนกล่องเอกสาร ทาบหลังมือของตนกับมือของจิม และเมื่อพบว่าสัมผัสจากอีกฝ่ายเย็นกว่า เขาจึงกอบกุมมือข้างนั้นไว้และลูบเบา ๆ

ออสวอลด์สบตากับคนขับรถบนกระจกมองหลัง จากที่เคลื่อนด้วยความเร็วปกติก็ช้าลง และเส้นทางก็อ้อมวกวนจากควรไปถึงจุดหมายในเวลาไม่นาน

แต่ทุกอย่างย่อมมาถึงจุดสิ้นสุด รถหยุดอยู่หน้าอพาร์ตเมนท์ขนาดเล็กแห่งหนึ่งไม่ไกลจากเขตเมือง บ้านของชายที่ยามนี้ยังจมอยู่ในฝัน และดูท่าจะไม่ยอมตื่นขึ้นมาง่าย ๆ

หากฝนไม่ตกหนักขนาดนี้ เขาคงถือวิสาสะอุ้มจิมไปส่งบนเตียงแล้ว และหากไม่ติดที่ขาข้างขวาของเขาใช้การไม่ได้เต็มที่จนอาจทำให้พวกเขาจบลงด้วยการนอนแช่แอ่งน้ำบนพื้นถนน เขาคงไม่ละความต้องการจะรักษาช่วงเวลาอันสงบสุขนี้ให้นานขึ้นอีกสักหน่อย

ออสวอลด์ขยับเข้าไปนั่งชิด เกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าออก เขานึกหงุดหงิดจิมเป็นครั้งคราวที่ไม่ใส่ใจดูแลตัวเองเท่าที่ควร และร่มของเขาก็มีไว้เพียงกำบังสายฝนไม่ใช่อันตราย เขาจึงอดไม่ได้ที่จะโอบตัวผู้บัญชาการตำรวจคนเก่งเข้ามากอดแน่นอย่างจนใจ ก่อนกระซิบริมหูให้อีกฝ่ายตกใจเล่นตอนลืมตาตื่น

“ได้เวลาตื่นแล้ว เพื่อนรัก”


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น