วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2565

[DCU] A man who died twice (Joker & Jason)


A man who died twice

DCU (Comics), Batman

— Joker / Batman, Implied Dick Greyson / Jason Todd —

Warning : Graphic Depictions Of Violence, Implied/Referenced Character Death, Mentions of Death and Violence

Summary : ไม่ว่าหนีไปไกลแค่ไหนก็ดูเหมือนว่าเจสัน ทอดด์ จะไม่มีทางหนีอดีตพ้น

Note : Inspired by Woodkid - I Love You




มันเป็นโกดังร้างที่ตั้งเดียวดายกลางเนินหิมะ แสงเลื่อมพรายที่ลอยล่องเป็นคลื่นบนฟ้าบ่งถึงสถานที่ตั้งใกล้ขั้วใดขั้วหนึ่งของโลก สิ่งก่อสร้างของมนุษย์ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างสะดุดตา และไม่น่าเชื่อ ในถิ่นที่ซึ่งไม่จำเป็นต้องดำรงอยู่ ความแปลกปลอมโยงใยให้นึกถึงจุดประสงค์ซ่อนเร้น ไม่น่าไว้วางใจ โดยเฉพาะเมื่อใครก็ตามที่อาจผ่านมาบังเอิญพบว่ามันไม่ได้เปลี่ยวร้างดังที่เห็นจากภายนอก

มีชายหนุ่มนั่งนิ่งอยู่ภายในนั้น ในห้องเก็บสินค้าป่าและของผิดกฎหมาย ห้องที่สว่างด้วยแสงออโรร่าสาดผ่านหลังคากระจก อากาศเย็นและอับชื้น เขานั่งไม่ขยับดังรูปปั้น หน้าก้มต่ำ มองหน้ากากสีแดงเลือดที่กำลังประคองด้วยสองมือ ตัดขาดจากความงามภายนอก ความน่าดึงดูดของวัตถุโดยรอบ และเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามา

เจสัน ทอดด์ ไม่จำเป็นต้องเงยหน้าเพื่อมองหาเจ้าของเสียง มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้จักสถานที่แห่งนี้ และคนที่รู้ว่าเขาจะกลับมายังจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงทั้งหลายในช่วงเวลานี้ มีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย

“คิดถึงเหมือนกันนะ” เสียงแหลมสูงเอ่ยขัดความสงบเงียบ “วันนั้นเราสนุกกันมากเลยเนอะ เจย์เบิร์ด” ผู้มาเยือนเคาะไม้เท้ากับพื้นแล้วชูขึ้นมาดันข้างขมับเจสันทีหนึ่ง

ทว่าไร้การตอบสนอง ไม่มีการหยิบปืนข่มขู่ ไม่มีการจู่โจมหมายเอาชีวิต

“เป็นอะไรไป เธอดูไม่สดชื่นเอาซะเลยนะ หนุ่มน้อย”

ชายคนนั้นลากเก้าอี้เหล็กจากอีกฟากห้องมาข้างหน้าเจสัน เขานั่งลงวางมือสองข้างบนพนักและเท้าคางด้วยอากัปกิริยาคล้ายเด็กที่มองสิ่งแปลกใหม่ด้วยความสนเท่ห์

“ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่” เจสันถามเสียงแหบแห้ง

อีกฝ่ายยักไหล่ “เธอหายไป ทำให้เขาไม่มีสมาธิ”

“ทุกอย่างสำหรับนายต้องข้องเกี่ยวกับเขาตลอดเลยสินะ” เจสันกัดฟันพูด ตาหรี่มองริมฝีปากแดงจัดแสยะกว้างก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะก้องไปมาในโกดัง

“โอ้ แต่เธอก็เป็นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ กดดันเขา บังคับให้เขาฆ่าฉันเพื่อตอบสนองความรู้สึกไม่ปลอดภัยของตัวเอง แล้วเป็นยังไงล่ะ รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม” ตัวตลกหัวเราะอีกครั้ง “อีกอย่าง เธอทำให้ฉันนึกถึงตัวเองในอดีตไม่น้อยเลยนะ ขอยอมรับว่าฉันมีความรู้สึกอ่อนไหวกับการถูกเอาอัตลักษณ์ตัวเองไปรวมกับของแบทซี่อยู่เหมือนกัน แบทซี่สร้างเธอขึ้นมา ส่วนฉันก็ช่วยแต่งเติมสีสันอีกนิดหน่อย...”

“นายฆ่าฉัน” เจสันเอ่ยเสียงเย็น “นั่นไม่ได้หมายถึงอะไร นายไม่ได้— ฉันไม่ใช่ของ—”

“อา ปฏิเสธความจริงไปให้ได้ตลอดเถอะ” โจ๊กเกอร์ยิ้มหวาน “เหมือนที่ปฏิเสธ...ชื่ออะไรน้า หนุ่มที่เธอกำลังสนใจอยู่น่ะ ลูกไม้ไม่เคยหล่นไกลต้นเลย ค้างคาวยักษ์หมกมุ่นเรื่องตลกชวนหัว ส่วนลูกนกน้อยก็ชอบนักล่าอันตราย”

เจสันชักสีหน้ารังเกียจเพื่อกลบบังใจที่กำลังเต้นแรง “หมายความว่าอะไร ฉันไม่ได้—”

“จำได้แล้ว เจ้าหนุ่มนั่นเป็นทาลอน เป็นนักฆ่า” โจ๊กเกอร์ดีดนิ้วเปาะ “เธอคงไม่กลืนน้ำลายตัวเองที่ว่าจะชำระล้างก็อทแธมหรอกนะ เจ้าหนุ่มนั่นก็เป็นอาชญากรนี่นา”

เจสันวางสีหน้าเรียบเฉย มือกำหน้ากากแน่นจนข้อนิ้วเผือดสี นัยน์ตาที่ต้องการสื่อว่าไม่รู้สึกอะไร ทรยศเปลวไฟที่กำลังเผาไหม้ในอก

“รู้สึกยังไงบ้างตอนที่รู้ว่าเขาเป็นนักฆ่า...ข้อเท็จจริงนี้จะปลุกเร้าเธอมากกว่าเดิมไหมเมื่อรู้ว่าคนที่ตัวเองจูบและกอดก่ายเป็นตัวอันตรายจากองค์กรที่คิดจะล้มล้างผู้อุปการะของเธอเอง”

เจสันหลับตาลง ลมหายใจผ่อนออก ก่อนเปิดเปลือกตาอีกครั้งเพื่อมองตอบดวงตาสีเขียวข้นคลั่กเหมือนพิษที่พยายามชำแรกเข้าสู่ความคิด

รู้สึกเหมือนตาย

ในชีวิตหนึ่งควรได้พบความตายสักเพียงครั้ง

แต่สำหรับเจสัน ความตายมาเยือนเขาถึงสองหน

หรือเพราะชีวิตของเขาแต่งแต้มเฉดสีจากน้ำมือตัวตลกจนไม่หลงเหลือเค้าโครงตัวตนเดิมอยู่เลยจากครั้งอดีต

“การแบ่งแยกระหว่างอดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็นเพียงมายาดื้อรั้นเรื้อรังเท่านั้น เจสัน ทั้งหมดนั้นคือสิ่งเดียว”

แปลกเหลือเกินที่ได้ยินเสียงอันขัดต่อภาพลักษณ์เจ้าแห่งความหฤหรรษ์อย่างสิ้นเชิง

อาจเพราะสถานการณ์นี้ประหลาดเกินไป อาจเป็นเพราะการคืนชีพกระทบกับระบบความคิดของเขาเกินไป ทุกอย่างที่ประกอบสร้างขึ้นมาเป็นนาทีนี้จึงดูเหมือนความฝัน ในห้องหับที่เปล่งประกายเรื่อเรืองนี้ ช่องว่างเป็นเกล็ด เวลาไม่มีตัวตน และสิ่งต่าง ๆ ไม่มีถิ่นที่

“นายมาทำอะไรที่นี่กันแน่” เจสันเอ่ยถาม

และโจ๊กเกอร์ยิ้มตอบ “ฉันมาเพื่อจะเล่าเรื่องหนึ่งให้นายฟัง” ตัวตลกลุกขึ้น เขายืนหันหลังให้เจสัน มือผายกว้าง ก่อนหันกลับมาจนเสื้อคลุมสีม่วงสะบัดเสียงดัง ราวจะเปิดม่านการแสดง “เรื่องราวเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่จมลงในมหาสมุทรเย็นเยียบ และสูญเสียสิ่งที่เขารัก”

ขณะนิ่งฟัง เขารู้สึกเหมือนกำลังจมลงในห้วงสีฟ้า ขณะมองแสงสีเขียวแวววาว เจสันรู้สึกว่าตนห่างไกลจากความชื้นแฉะและเปียกปอนของอดีตกาล ก่อนหันมาน้อมรับความแห้งผาก ชืดชา ของอนาคตที่เคลื่อนเข้าใกล้

“มันเป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับชายที่ตายถึงสองหน”


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น