วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2565

[MHA] Kiss It Better (Dabi/Hawks)


Kiss It Better

Boku no Hero Academia

— Dabi / Hawks —

Warning : Implied Sexual Content, Nudity, Self-harm, Depression.

Summary : บางแง่มุมฮอว์คก็เหมือนกับเขา จับความพลั้งเผลอได้ไวเหมือนฉลามได้กลิ่นเลือด





“ร้อนเหรอ”

ใช้เวลาหลายอึดใจกว่าดาบิจะตกตะกอนได้ว่าคำถามนี้ส่งถึงเขา ดวงตาของฮอว์คดูเฉียบคมเป็นพิเศษใต้ไฟนีออน แวววามเหมือนอำพัน ยอกย้อนความเข้าใจบางอย่างเหมือนเป็นกระจกสะท้อนภาพ และดาบิไม่ชอบส่องกระจก มันทำให้เขาเห็นตัวเองมากเกินไป

“นิดหน่อย” ปฏิเสธไม่ได้ บางแง่มุมฮอว์คก็เหมือนกับเขา จับความพลั้งเผลอได้ไวเหมือนฉลามได้กลิ่นเลือด

แต่กรณีนี้คงต้องกล่าวว่าเหยี่ยวเป็นฝ่ายชนะเสมอเมื่อเห็นทุกสิ่งจากมุมมองพระเจ้า

“อยากกลับเลยไหม” ฮอว์คถามต่อ ทำราวทุกอย่างแสนง่ายดาย ทว่าดาบิยังไม่ชัดเจนกับตัวเองนักว่าอะไรที่ยาก

ความแสบคันใต้เนื้อหนังเหมือนเส้นเลือดหล่อเลี้ยงหินหลอมเหลวมากกว่าโลหิต ผิวกำลังปริลอก และหากตาไม่ฝาด เขาเหมือนเห็นไอร้อนบางเบาระเหยขึ้นมา

ผิวที่คล้ำไหม้ก็มอดไหม้อยู่อย่างนั้น ผิวที่เหลืองซีดเริ่มแดงช้ำ หากฮอว์คถามว่าเจ็บหรือเปล่า เขาคงปฏิเสธ คงนั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน ไม่ทำอะไร รอดูว่าตนจะไปได้ไกลแค่ไหนก่อนที่ผิวหนังทั้งหมดจะลุกไหม้เป็นเถ้าถ่าน

“ไปกันเถอะ” ฮอว์คลุกขึ้นยืน เสื้อยืดหลวมโพรกทำให้เขาดูตัวเล็กกว่าความเป็นจริง ปีกข้างหลังเหยียดออกเหมือนบิดไล่ความเกียจคร้าน สีหน้าเบื่อหน่ายเต็มกลืน ดาบิส่งสายตาบอกว่ายังไม่ได้ตอบตกลง

ฮอว์คเปิดโอกาสให้เขาเลือก โดยการเดินออกไปจากบาร์ โยนทุกอย่างทิ้งเหมือนไม่แยแส ดาบิอดหัวเราะในลำคอไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายเคยทำทุกวิถีทางเพื่อให้มาอยู่ตรงนี้

“กลับแล้วเหรอ” ทไวซ์เอ่ยขึ้น ก่อนโบกมือลาอย่างไม่คิดอะไร

แต่คนที่เหลือคิด พวกเขาไม่ได้ซื่อบื้อ แค่ปิดตาข้างหนึ่งไปพร้อมกับส่งยิ้มเคลือบพิษ

ดาบิเดินตามฮอว์คออกไป แต่ละก้าวเชื่องช้า เพราะคนที่อยู่ข้างหน้าก็ไม่ได้รีบร้อน เทวดาปีกโลหิตถึงกับยอมลงมาเดินดินร่วมกับมนุษย์ ดาบิย่อมต้องชื่นชมให้เต็มสายตา

ปีกอ่อนนุ่มที่แปลงเป็นโลหะคมกริบได้ในเสี้ยววินาที สวยและบาดมือเช่นกุหลาบหนาม หลายครั้งหลายคราเวลาที่เผลอไผล ดาบิจะกำมันแน่น ปล่อยปละเปลวไฟอย่างไม่ได้ตั้งใจ สร้างทำนองแหลมลึกไปพร้อมกับครางครวญ และฮอว์คจะเปลี่ยนของหวานเป็นยาขม จากอ่อนนุ่มเป็นแข็งบาด ฝ่ามือของดาบิเต็มไปด้วยรอยกรีด เหมือนกับที่เรือนร่างใต้เสื้อผ้าของฮอว์คเต็มไปด้วยรอยไหม้

พวกเขามาถึงอพาร์ตเมนท์เก่าโทรมย่านชานเมือง ฮอว์คเดินตรงเข้าไปในห้องของเขาราวกับเป็นเจ้าของเสียเอง แต่ดาบิไม่เคยยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด ไม่เคยใช้มีดด้ามทื่อเล่มนี้เพราะรู้ว่ามันคงสร้างแค่รอยขีดข่วน ต้องปล่อยให้ฮอว์คถลาลงมาจากฟ้าเอง ใช้ความเร่งจากแรงโน้มถ่วงในการปักมีดบนหัวใจ ดาบิจะทำแค่ถือมีดและยืนรอ เขาใจเย็นพอ เขารอมาหลายอย่างแล้ว กับฮอว์คเองเขาก็รอได้

อาจจะยินดีรอมากกว่าเรื่องใดเสียอีก

ฮอว์คเดินไปทางตู้เย็น ส่วนดาบิเดินเข้าห้องน้ำ ถอดเสื้อยืดออกกองตรงพื้น เปิดก๊อกน้ำจนสุด ไม่ปรับเป็นน้ำอุ่น เสียงน้ำก้องผนัง ฮอว์คเดินตามเข้ามาตอนที่น้ำใกล้จะล้นอ่าง

ขนสีแดงลอยมาดันก๊อกปิด “ฉันไม่อยากเปียก”

ดาบิยิ้มแสยะ มองขึ้นลง “ถอดออกเลยดีกว่า ยังไงนายก็ต้องเปียก”

ฮอว์คพับแขนเสื้อขึ้นถึงข้อศอก ปลายกางเกงวอร์มขึ้นมาครึ่งขา ส่งสายตาระอาที่ไม่ได้แฝงความอบอุ่นใด

ระหว่างพวกเขาไม่มีความอบอุ่น มีแค่ร้อนเหมือนถูกคลอก กับเย็นเฉียบเช่นน้ำแข็ง

ฮอว์คฉีกถุงน้ำแข็งทั้งหมดที่เคยซื้อมาตุนให้เขาแล้วเทลงในอ่าง

สุดท้ายน้ำก็กระฉอกออกมา และระหว่างที่ลงไปนั่ง ดาบิจงใจทิ้งตัวลงให้น้ำล้นโดนตัวฮอว์ค

ไอน้ำที่พลันท่วมห้องไม่ได้บดบังสีหน้ารำคาญของฮีโร่หนุ่ม เขาทำท่าจะหมุนตัวกลับ แต่ดาบิดึงชายเสื้อของเขาทัน

“ยังรู้สึกร้อนอยู่เลย”

ฮอว์คแหงนคอ ถอนหายใจใส่เพดาน “ยุ่งชะมัด”

“ยอมยุ่งมาถึงตรงนี้” ดาบิม้วนเสื้อในมือเข้า ดึงตัวฮอว์คให้เดินถอยหลังมาถึงขอบอ่าง “ยุ่งอีกนิดจะเป็นไรไป”

“ฉันอยู่ไปก็ไม่ช่วยอะไร”

“ก็นะ” ดาบิโคลงหัว “ช่วยจูบคลายร้อนไง”

ฮอว์คมองเขานิ่ง ก่อนหลับตาลงอย่างยอมแพ้ “ให้ฉันถอดกางเกงก่อน”

ดาบิผิวปาก ฮอว์คกลอกตา เขาถอดกางเกงวอร์มแล้วโยนออกไปนอกห้องน้ำ

“ไม่ถอดนี่ด้วยล่ะ” ดาบิดึงขอบกางเกงชั้นในสีดำ ฮอว์คปัดมือเขาออก

“ไม่” ฮอว์คพูดหนักแน่น เขาโน้มตัวลง กวาดตามอง ดาบิรู้ว่าฮอว์คทำอะไร เขากำลังดูว่ารอยเย็บไหนที่ปริออก ส่วนไหนที่ต้องร้อยด้ายและตะเข็บใหม่ ทำเหมือนกำลังซ่อมแซมตุ๊กตาเก่าเก็บ

ทำเหมือนกับเขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ความคิดนี้ทำให้ไฟในตัวแผดร้อนขึ้น แต่ดาบิกลับพบว่าตนเองยอมปล่อยให้ปลายนิ้วเย็นแตะบนใบหน้า ลำคอ เรื่อยถึงข้อมือ

“ตรงไหน” ฮอว์คถาม เป็นประโยคย่อของคำถามที่ว่า เจ็บตรงไหน

ดาบิเอียงศีรษะ ยกยิ้ม “ทั้งหมดเลย”

ความเจ็บปวดไม่เป็นปัญหาสำหรับเขามานานแล้ว แค่ทุบตะปูเกี่ยวหนังให้ไม่ผุพังจนยากเคลื่อนไหวก็เพียงพอ แต่มันเป็นปัญหาที่รบกวนฮอว์ค บางคราวดวงตาคู่นั้นแสดงอารมณ์ชนิดที่ทำให้ดาบิอยากโพล่งเสียงหัวเราะ

ฮอว์คทำลายรอยยิ้มของเขาจนย่อยยับด้วยการประกบริมฝีปาก ทุกครั้งจะเริ่มที่ตรงนี้ ริมฝีปาก ดาบิรู้ว่าจูบจะปรากฏตรงนี้ แต่เขาก็พ่ายแพ้ทุกครั้ง แนบด้วยเนื้อริมฝีปากนิ่งนาน ก่อนแทรกลิ้นเข้ามา เมื่อฮอว์คเป็นฝ่ายนำ บ่อยครั้งเขาจะนำทางเหมือนจับจูงมือเดินกลางสายฝนพรำ เชื่องช้า แนบแน่น

จากนั้นเป็นที่หน้าผาก ฮอว์คจะเลิกเส้นผมของเขาขึ้นแล้วจูบ ริมฝีปากของเขาเริ่มอุ่นขึ้นเพราะสัมผัสก่อนหน้า และเช่นเคย จูบหยุดอยู่ตรงนั้นนิ่งนาน แต่ไม่นานพอจะขจัดความเสียดายเมื่อจากลา

โหนกแก้มของเขาเป็นสถานที่ถัดมา ส่วนที่ผิวหนังทั้งสองยึดเข้าหากันอย่างยากลำบาก ดาบิรู้สึกถึงแรงตึงบริเวณแก้มทุกครั้งที่ออกปากพูด แต่เมื่ออยู่นิ่ง หลับตา ปล่อยให้ริมฝีปากพรมสัมผัสอ่อนนุ่มลงมา ความแตกต่างเกิดระหว่างปลายประสาทที่ด้านชากับเนื้อหนังที่ยังรู้สึก ส่วนหนึ่งห่างไกล ส่วนหนึ่งชิดใกล้ เขารู้สึกเหมือนโดนโอบล้อมมากกว่าโดนฉีกแยก ดาบิจะไม่มีวันยอมรับว่าเขาชอบส่วนนี้ที่สุด เวลาที่ฮอว์คค่อย ๆ จูบแก้มทั้งสองข้างอย่างไม่ให้ด้านใดได้รับน้อยกว่ากัน

ส่วนสุดท้ายที่แสนน่าชังคือปลายจมูก

ดาบิไม่เคยห้ามตัวเองให้ย่นจมูกได้ทันเวลาริมฝีปากของฮอว์คผละไป ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง ฮอว์คจะหัวเราะทุกครั้ง

“ดีขึ้นหรือยัง” ฮอว์คถามเหมือนเดิม รอยยิ้มแบบเดิม ดวงตาวาววามแบบที่ดาบิอยากปิดประกายของมันไว้ไม่ให้ใครเห็น

“ไม่เลย” ดาบิตอบเหมือนเดิม มองปีกสีแดงขยับขึ้น มองท่าทางกังขาอันเงียบงัน กรีดรอยยิ้มอีกครั้งเพื่อให้เหยี่ยวโฉบมาหาเหยื่อ

ลงมาติดกับดัก

ดาบิแตะสะโพกฮอว์ค พาดแขนบนตักแล้วคล้องเอวเข้าหา อีกฝ่ายเกร็งตัวขึ้นเมื่อความเย็นเยียบซึมขึ้นตามชายเสื้อ ก่อนผ่อนลงอย่างรวดเร็ว

ตัวของฮอว์คเย็นกว่า ตัวของดาบิไหม้ราวกับท่วมด้วยไฟ

“ยังไม่หายร้อนเลย”


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น